เครือข่าย
คือการเชื่อมโยงของกลุ่มคนหรือองค์กรที่สมัครใจที่จะแลกเปลี่ยนข้อมูลหรือทำกิจกรรมร่วมกันเพื่อบรรลุเป้าหมายร่วมกัน
การสร้างเครือข่ายของสถานศึกษานั้นอาจเป็นการสร้างความสัมพันธ์กับผู้ปกครอง
วัด ชุมชน สังคม และหน่วยงานของรัฐและเอกชนหรือแม้แต่เครือข่ายระหว่างกลุ่มสถานศึกษา
ซึ่งเครือข่ายการศึกษานั้นจะช่วยให้เกิดความร่วมมือในการสนับสนุนการจัดการศึกษาให้เกิดประสิทธิภาพและบรรลุเป้าหมาย
เครื่องมือที่จะช่วยให้ผู้บริหารสามารถสร้างเครือข่ายอย่างมีประสิทธิภาพนั้นจะต้องใช้LINKโมเดล
ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ปรับมาจากการสร้างเครือข่ายในภาคธุรกิจแต่ได้มีการปรับปรุงให้เหมาะสมกับการจัดการศึกษา
ซึ่งมีเนื้อหาดังต่อไปนี้
LINKโมเดล ประกอบด้วย โมเดล4 ตัว คือ
L –
Learn คือเรียนรู้และทำความเข้าใจ
I-
Institute คือการสร้างเครือข่าย
N-
K-Keep
รักษาความสัมพันธ์
1. L
– Learn คือเรียนรู้และเข้าใจ
สุดยอดผู้บริหารจะต้องเรียนรู้และเข้าใจถึงบริบทของสถานศึกษาเพื่อการสร้างเครือข่ายที่มีคุณภาพและตรงกับความต้องการของสถานศึกษา
ทำความเข้าใจถึงบริบทของสถานศึกษาก่อนว่ามีจุดเด่น
จุดที่ต้องพัฒนา อุปสรรค์ และโอกาสอย่างไร และทำการศึกษาเรียนรู้บริบทของสังคม
ชุมชนที่สถานศึกษาตั้งอยู่ ทำการศึกษาความต้องการของสังคมชุมชน และศึกษาธรรมชาติของผู้เรียนว่ามีบริบทอย่างไร และกำหนดจุดมุ่งหมายว่าผู้เรียนจะต้องมีศักยภาพ
มีทักษะที่สำคัญในการดำเนินชีวิต เพื่อสร้างเครือข่ายที่จะมาช่วยสนับสนุนในด้านนั้นได้อย่างตรงจุด
ตัวอย่างเช่น
หากเรียนรู้บริบทของโรงเรียนและชุมชนแล้วพบว่า โรงเรียนต้องการที่จะสร้างหรือผลิตนักเรียนที่จบจากโรงเรียนไปแล้วจะต้องมีศักยภาพคือ
จะต้องมีสมรรถนะด้านอาชีพ เป็นคนเก่ง ดี
สามารถใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข มีทักษะแห่งศตวรรษที่ 21
เมื่อเรียนรู้ ตั้งเป้าหมายแล้ววางแผนการสร้างความสัมพันธ์กับชุมชนและหน่วยงานที่เกียวข้องเพื่อมาร่วมในการจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาศักยภาพตามที่ต้องการ
เครือข่ายที่สามารถสร้างได้ เช่น
1.เครือข่ายผู้ปกครอง อาจจะมาในรูปแบบความร่วมมือ เป็นวิทยากรให้ความรู้ด้านอาชีพ
หรือมามีบทบาทในการเป็นคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน
2. เครือข่ายของชุมชน เป็นแหล่งเรียนรู้และแหล่งภูมิปัญญาแก่นักเรียน นักเรียนร่วมอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่น
3.หน่วยงานของอาชีวศึกษา ในรูปแบบทวิศึกษา
ซึ่งช่วยให้นักเรียนสามารถเรียนรู้และฝึกประสบการณ์อาชีพได้ในขณะที่เรียน
ส่วนหน่วยงานอาชีวศึกษาก็จะมีนักเรียนเรียนมากขึ้นและช่วยผลิตแรงงานคุณภาพแก่สังคม
4.หน่วยงานภาคเอกชน เช่น บริษัทขนาดใหญ่เช่นCP มีการทำห้องเรียนCP ซึ่งนัดเรียนจะได้เรียนเรื่องการตลาด และฝึกประสลการณ์กับบริษัทเมื่อจบการศึกษาก็มีโอกาสเข้าทำงานได้เลย
ส่วนบริษัทเองก็จะได้พนักงานที่มีความรู้ความสามารถและประสบการณ์
5. วัด โรงเรียนอาจใช้เป็นแหล่งเรียนรู้เพื่อให้นักเรียนได้เรียนรู้ศาสนาและวัฒนธรรม พระอาจารย์สามารถมาให้ความรู้และกล่อมเกลาความคิดเพื่อสร้างนักเรียนที่เป็นคนดีมีคุณธรรม
6.หน่วยงานห้างร้านอื่นๆ ที่อาจมาช่วยสนับสนุนทางการศึกษา
ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบของเงิน สิ่งของ สื่ออุปกรณ์ต่างๆ คอมพิวเตอร์ แหล่งเรียนรู้ภายในและภายนอกโรงเรียน
การใช้เครือข่ายเพื่อพัฒนาการจัดการเรียนการสอนเพื่อสร้างนักเรียนที่พร้อมในการใช้ชีวิตในศตวรรษที่21
1.ทำให้เครือข่ายเห็นถึงความสำคัญของการจัดการศึกษา และสร้างเป้าหมายร่วมกัน
2.สร้างหลักสูตรและการจัดการเรียนรู้ที่ครอบคลุมศักยภาพและทักษะที่จำเป็น
-การประชุมร่างหลักสูตรให้ครอบคลุม
โดยคณะกรรมการสถานศึกษาซึ่งเป็นผู้มีความรู้ความสามารถด้านต่างๆมาช่วยดูหลักสูตร
พร้อมทั้งชุมชนร่วมร่างหลักสูตรสถานศึกษาซึ่งเป็นการสร้างอิงจากท้องถิ่นซึ่งเป็นหลักสูตรที่เหมาะสมกับบริบททางสังคมชุมชน
-กำหนดบทบาทของเครือข่ายที่เข้ามาช่วยในการจัดการศึกษา จัดทำบันทึกความร่วมมือกับหน่วยงาน ขอความร่วมมือในการสนับสนุน
ในส่วนที่โรงเรียนยังขาด
- จัดการเรียนการสอนตามหลักสูตรสถานศึกษา
-จัดการประชุมประจำเดือนหรือไตรมาสเพื่อรายงานผลการนำหลักสูตรไปใช้
ร่วมถึงกิจกรรมที่เครือข่ายและทางโรงเรียนร่วมจัดขึ้น
-แสดงข้อมูลให้โปร่งใสสามารถตรวจสอบได้
-วิจัยและพัฒนาหลักสูตร
3.สร้างการมีส่วนร่วมของเครือข่ายต่อกิจกรรมของโรงเรียน